BUSINESS
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะกล่าวว่ารองเท้าเป็นตัวแสดงให้เห็นทุกมุม ทั้งอัตลักษณ์ สไตล์การทำงาน และไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ ตามที่ว่ากันว่า “อยากรู้จักคนให้ดูที่รองเท้า”
แม้อุตส่าห์แต่งตัวมาอย่างดี แต่ผู้สวมอาจเสียภาพลักษณ์ได้ทันที หากบริเวณส้นเท้าของรองเท้ามีรอยแหว่ง หรือรอยเปื้อนสกปรก
ด้วยเหตุนี้ ส่วนเท้าจึงส่งผลต่อความประทับใจในวงการธุรกิจเป็นอย่างมาก
ยิ่งหมู่นักธุรกิจชั้นหนึ่ง ทุกคนจะมีความชอบและปรัชญาของตัวเองในเรื่องรองเท้า และมักจะมีรองเท้าคู่โปรดที่ใช้มาเป็นเวลานาน
แต่ทั้งนี้ รองเท้าคู่นั้นไม่ได้จำเป็นต้องมีแบรนด์หรูหราเลย
แน่นอนว่าการเลือกซื้อรองเท้าคุณภาพสูงย่อมดีกว่า แต่จะดีที่สุดคือต้องขัดรองเท้าคู่สำคัญอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ใช้รองเท้าที่พอดีกับเท้าของตัวเองได้นาน
หากเราชำนาญวิธีดูแลรองเท้าแล้ว รองเท้าคู่โปรดของเราก็จะเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ
มาลองสนุกไปกับการดูแลรองเท้าด้วยกันครับ
อุปกรณ์อย่างที่ดันรองเท้าหรือผ้าเช็ดสามารถใช้ของใช้ในครัวเรือนแทนได้ แต่ทางที่ดีก็อยากให้ได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกอุปกรณ์ด้วย ของที่จำเป็นต้องเตรียมไว้ก่อนมี 3 อย่าง คือ 1. โลชั่นขจัดคราบ 2. แปรงขัดรองเท้าขนหมูป่า และ 3. ครีมขัดรองเท้า
ใช้ผ้าชุบโลชั่นขจัดคราบ และเช็ดรองเท้าให้ทั่วจนคราบออกหมด หลังจากนั้นให้หยอดครีมขัดรองเท้าประมาณ 3 เม็ดข้าวใส่มือหรือแปรงขัด แล้วเกลี่ยบาง ๆ ให้ทั่วผิวรองเท้าแต่ละข้าง (สามารถใช้แปรงสีฟันแทนได้) เพื่อเติมความมันและความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งแข็ง และควรใช้แปรงขัดในส่วนที่นูนขึ้น มีรอยขีดข่วน หรือมีรอยบุบ
หลังจากปล่อยให้แห้งประมาณ 3 นาที ให้ใช้แปรงขนหมูป่าแบบแข็งขัดพื้นผิวให้ทั่ว การขัดนี้ทำให้เกิดความร้อนจากการเสียดสี ซึ่งจะทำให้แว็กซ์ละลายและคืนความแวววาวให้กับผิวรองเท้า
ใช้สเปรย์กันน้ำกับบริเวณอื่นที่ไม่ใช่หลังเท้าและส้นเท้า นอกจากสเปรย์จะช่วยกันน้ำแล้ว ยังป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเกาะติดผิวรองเท้าด้วย โดยผลจะอยู่ประมาณ 1 เดือน นอกจากใช้สเปรย์หลังทำความสะอาดแล้ว ยังใช้หลังซื้อรองเท้าคู่ใหม่ได้ด้วย
ใช้ครีมสีเดียวกับรองเท้าเพื่อปิดรอยหรือจุดที่สีตก และใช้ครีมไม่มีสีเพื่อบำรุงและทำให้เงางาม
มีชุดดูแลรองเท้าในกล่องไม้ที่ผลิตโดย "Columbus" ของญี่ปุ่นจำหน่าย นับเป็นของหายากในไทย แต่ "SUIT SELECT" เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่าย (สินค้าต้องสอบถาม)