BUSINESS
“Personal Color” (สีเฉพาะตัว) คือแนวคิดเกี่ยวกับการใช้สีที่เกิดขึ้นมาในประเทศสหรัฐอเมริกาในยุค 1960
แนวคิดนี้เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นจากตอนที่เคเนดีกับนิกสันแย่งเก้าอี้ประธานาธิบดีกันในยุคนั้น
โดยในเวลานั้นเริ่มมีการใช้โทรทัศน์สีอย่างแพร่หลายทั่วอเมริกา เคเนดีจึงใช้มันให้เป็นประโยชน์ในศึกการเลือกตั้งครั้งนั้น
ยามที่เคเนดีกล่าวหาเสียงออกโทรทัศน์ เขาจะเลือกแต่งตัวให้มีสีสันตรงกับธงชาติอเมริกาอยู่เสมอ ทำให้ผู้คนหลงเสน่ห์เขาด้วยภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์และทรงพลัง
เพราะเหตุนี้เอง ทำให้แนวคิดเกี่ยวกับ Personal Color เริ่มเป็นที่แพร่หลายขึ้นมา
แนวคิดนี้เข้ามาสู่ญี่ปุ่นช่วงกลางยุค 1980 โดยมีดีไซเนอร์และโคออดิเนเตอร์ในวงการแฟชั่นมากมายเริ่มนำแนวคิดนี้มาใช้ตั้งแต่นั้นมา
ว่ากันว่าความประทับใจแรกพบของคนเกิดขึ้นในเวลาเพียง 5 วินาทีหลังพบกัน โดยมีปัจจัยหลักภายนอก 3 อย่างที่ใช้ตัดสินคือสีผิว สีผม และสีตา
การเลือกสี Personal Color ให้ตรงกับตนเองนั้นจะช่วยทำให้สีที่ได้มาแต่กำเนิดกับเอกลักษณ์ของเราเข้ากันได้มากขึ้น และแสดง “ความเป็นตัวเอง” ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และน่าประทับใจ
การเลือกสีให้เข้ากับสีตาของตนเองก็เป็นข้อสำคัญอย่างหนึ่ง ชาวญี่ปุ่นมักมีม่านตา (ตาดำ) สีออกเทาหรือสีน้ำตาล โดยมีหลากหลายตั้งแต่น้ำตาลโทนอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
นอกจากนี้ ระดับความสว่างของม่านตายังขึ้นกับรูม่านตาอีกด้วย ยิ่งมีรูม่านตาที่สีดำชัดเจนก็ยิ่งทำให้ม่านตาดูสว่างขึ้นไปด้วย
สี Personal Color แบ่งกลุ่มออกเป็น “ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว” ตามแต่ละฤดู
ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถจัดอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ โดยตัดสินได้จาก 3 ปัจจัยคือสีผิว สีผม และสีตา
เมื่อเข้าใจเรื่องนี้แล้วเราก็สามารถแต่งตัวโดยนำสีที่ทำให้ตนเองมีเสน่ห์มาใช้ได้ และทำให้การแต่งตัวของเราดูดีขึ้นมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวแทนของบริษัท Spiral Color เป็น Colorist (ผู้เชี่ยวชาญด้านสี) ที่มีประสบการณ์ในวงการ 28 ปี ปัจจุบันเปิด Spiral Color Salon และโรงเรียนสอนการใช้สี (Color School) ที่อาคาร RSU ชั้น 9 ซอยสุขุมวิท 31 กทม. ช่วยออกแบบสีและสอนการใช้สีให้กับชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เคยให้บริการวินิจฉัยสีมาแล้วกว่า 10,000 คน และยังทำงานเป็นผู้ตรวจสอบการใช้สีให้บริษัทยานยนต์รายใหญ่ รวมถึงเป็นนักออกแบบให้ห้างเครือเซ็นทรัลอีกด้วย ทั้งยังได้รับรางวัลดีเด่นแบบหมู่คณะ 4 ปีซ้อนในการทดสอบการใช้สีที่กระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้จัด ซึ่งเป็นการรับรางวัลจากต่างประเทศครั้งแรกด้วย
การเลือกเสื้อผ้าสำหรับแต่งตัวประกอบไปด้วยปัจจัยมากมายเช่น สี ลาย และวัตถุดิบ
โดยเฉพาะสีที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยแสดงเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ออกมา ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อผู้สวมใส่เอง แต่ส่งผลไปถึงภาพลักษณ์ของเราในสายตาของผู้พบเห็นด้วย
ตัวอย่างเช่นสีกรมท่า
ในแวดวงธุรกิจถือเป็นสีที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และสติปัญญา ทำให้สามารถนำมาสวมใส่ได้ง่าย เป็นสีที่ผู้คนมากมายเลือกใช้เพราะใช้ได้ง่ายที่สุด
หรือสีเทาที่นอกจากจะให้ความรู้สึกแบบบริษัทในเมืองหลวงแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่มีระดับและมีสไตล์ด้วย และด้วยการจัดสีของเสื้อเชิ้ตข้างในและกางเกง ก็สร้างภาพลักษณ์ “ร้ายนิด ๆ” ให้ผู้สวมใส่เพลิดเพลินไปด้วยได้ เรียกว่าเป็นสีมาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่ก็ไม่ผิดนัก
และสีโทนน้ำตาล แนะนำสำหรับตอนที่อยากแสดงเอกลักษณ์ที่ต่างจากผู้อื่น หรือตอนที่อยากเพิ่มขวัญกำลังใจให้ตัวเอง
ว่ากันว่าสีโทนนี้เช่นสีเบจ สีน้ำตาล หรือสีอูฐ เป็นสีที่มอบความอบอุ่นและความน่าไว้วางใจแก่ผู้พบเห็น
สีท่อนบนที่ผสมผสานกันในเวลาที่สวมแจ็คเก็ตช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ได้อย่างมาก ลองคำนึงถึงการใช้สีมากกว่าเดิมสักนิด เพื่อตามหาตัวตนใหม่ในตนเองดูไหมครับ
ตามหลักแล้วการผสมผสานสีของชุดสูทในภาพรวมจะใช้โทนสีไม่เกิน 3 สี
หากผู้สวมเป็นผู้ชาย ยิ่งใช้สีมากไปจะทำให้ภาพรวมดูเหลาะแหละ และอาจหมดความน่าเชื่อถือได้แม้จะสวมสูทอยู่ก็ตาม
กล่าวได้ว่าสิ่งสำคัญของการสวมสูทให้ดูดีคือการคำนึงถึงประเภทและความเข้มของสี โดยใช้จำนวนสีให้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ สิ่งที่ห้ามลืมเลยคือการผสมผสาน “Center Line” กับ “Side Line”
การจัดสีของ Center Line (เนคไท, เข็มขัด, รองเท้า) ที่เป็นพื้นฐานของการแต่งตัว ในทางทฤษฎีแล้วควรจัดให้เป็นสีโทนเดียวกัน เพียงใช้สีเดียวกันในแนวตั้งเช่นนี้ ก็ทำให้ภาพรวมของผู้สวมมีภาพลักษณ์สอดคล้องกันขึ้นมาแล้ว
และถ้าอยากเพลิดเพลินไปกับการแต่งตัวอย่างมีสไตล์มากกว่านี้ จะลองจัดสีของ Side Line (เนคไท หรือเสื้อเชิ้ตและ Pocket Square) ดูด้วยก็ได้
การทำให้โทนสีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเช่นนี้ ทำให้ช่วงหน้าอกของผู้สวมมีภาพลักษณ์ดูมีระดับและสะอาดตาขึ้นมาได้
เพิ่มเติมคือหากทำให้สีของเครื่องหนัง (เข็มขัด, รองเท้า, กระเป๋า) เป็นสีเดียวกัน ก็จะทำให้ดูมีสไตล์สอดคล้องกันด้วย
เพียงแค่คิดถึงการผสมผสานสีเช่นนี้ตอนแต่งตัว ก็ช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเราได้อย่างมาก ลองพลิกแพลงการจัดสีให้เหมาะกับตนเอง เพื่อให้สนุกไปกับการแต่งตัวดูครับ
จองผ่าน LINE